มีงี้ด้วย เกมส์ H1Z1 ให้ผู้เล่นสำนึกผิดออกสื่อ เพื่อจะได้ปลดแบน
พระท่านว่า "ไม่มีทานไหน ยิ่งใหญ่ไปกว่าอภัยทาน" ด้วยเหตุนี้ H1Z1 เกมซอมบี้จากโซนี่ ที่มีให้เล่นกันใน Steam ซึ่งเพิ่งจะลงโทษแบนคนโกงเกมส์ไปกว่า 23,837 คน จึงให้โอกาสคนโกงเกม ได้กลับมาเล่นอีกครั้ง หากผู้เล่นที่ถูกแบน ทำการสำนึกผิดอย่างจริงใจออกสื่อ ให้สาธารณชนได้รับรู้
เกมส์ H1Z1 เป็นเกมออนไลน์แนว Open World เอาตัวรอดจากซอมบี้ คล้ายกับเกม Infestation และ DayZ แต่เป็นของค่ายโซนี่ออนไลน์ (ปัจจุบันแยกตัวออกมาเป็นชื่อ Daybreak Game Company) ทำให้เล่นกันใน Steam ซึ่งมีคนเล่นจำนวนมาก และในจำนวนนั้นก็มีผู้เล่นกลุ่มหนึ่งใช้โปรแกรมโกงที่มีชื่อว่า TMcheat โดยช่วงแรกที่ใช้นั้นทีมงานไม่ได้ทำการแบน จึงมีผู้เล่นเริ่มใช้ตัวโกงนี้มากขึ้น เพราะคิดว่าใช้ได้ไม่โดนแบน จนกระทั่งทีมงานมาทำการแบนครั้งใหญ่สองหมื่นกว่าคนดังกล่าวไป ก็เลยมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งอีเมล์ไปขอโทษกับทาง John Smedley ประธานของ Daybreak Game Company เพื่อขอให้ปลดแบน เขาจึงตัดสินใจประกาศออกมาดังนี้
"Dear Cheaters who got banned. Many of you are emailing me, apologizing and admitting it. Thank you. However.. You're doing it wrong. If you want us to even consider your apology a public YouTube apology is necessary. No personal information please. Email me the link. And I will tweet it. Please be sure not to reveal any info. That's important. Not trying to do anything other than highlight a serious issue."
ย่อๆคือ John Smedley จะให้โอกาสคนโกงที่ถูกแบนอีกครั้ง หากยอมรับผิดและขอโทษออกสื่อ โดยให้คนที่อยากพ้นโทษแบน ทำการถ่ายคลิปขอโทษของตัวเองลงใน Youtube แล้วส่งลิงค์มาให้เขาดู ซึ่งทางเขาจะเอาไปลงใน Twitter ประกาศให้คนทั่วไปดูอีกทีหนึ่ง แต่ในคลิปห้ามบอกข้อมูลส่วนตัว พวกไอดี หรือชื่อในเกมส์ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญ ทั้งนี้เขาจะพิจารณายกเลิกโทษแบนให้โดยดูจากความตั้งใจของคนทำคลิป
เรามีตัวอย่างคลิปวีดีโอขอโทษออกสื่อมาให้ชมกัน สองคลิป
หลังจากนั้นก็มีคนส่งคลิปขอโทษไปพอสมควร แต่ทาง John Smedley ออกมาบอกว่าเขาเพิ่งปลดแบนไปให้แค่ 3 คนเท่านั้น เพราะนอกนั้นดูแล้วไม่ปลื้ม เขาคาดว่าคงมีคนได้พ้นโทษแบนแค่ราวๆ 4-5 คนเท่านั้น จากทั้งหมดสองหมื่นกว่าคน
ติดตามการอัพเดทเกมส์ใหม่ มาแรง ได้แล้วที่นี่: http://xn--12cgl6e7a4c8bvdvc2esb.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น